“จากเสียงระฆังบนสังเวียน สู่บทเรียนแห่งชีวิต” อะไรคือเบื้องหลังความสำเร็จของนักชก ม.ราชภัฏโคราช ที่ทำให้ “มวยไทย”
ไม่ใช่แค่มรดก แต่คือลมหายใจแห่งความมุ่งมั่นในรั้วการศึกษา? มาร่วมเปิดปฐมบทชีวิตนักสู้ ได้ที่นี่

สวัสดีครับชาว NRRU และแฟน ๆ มวยไทยทุกคน! วันนี้ NRRUทูเดย์ จะพาคุณไปเจาะลึกเรื่องราวสุดพิเศษ
ที่จะทำให้คุณทึ่งกับพลังของคนรุ่นใหม่ในรั้ว มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา
กับการปลุกปั้นนักมวยทั้งหญิงและชาย ให้ก้าวสู่สังเวียนระดับประเทศ
พร้อมคว้าชัยชนะมาเชิดชู ชื่อเสียงของสถาบันและเมืองโคราชบ้านเรา
เราทุกคนรู้กันดีว่าโคราชคือ “เมืองหญิงกล้า” และเป็นถิ่นกำเนิดของ “มวยโคราช” ศิลปะการต่อสู้ที่สืบทอดกันมายาวนาน
แต่ใครจะคิดว่า จิตวิญญาณนักสู้เหล่านี้จะมาผลิบานได้อย่างงดงามในรั้วมหาวิทยาลัย?
วันนี้เราจะมาคุยกับผู้บริหาร หัวหน้าค่ายมวย และโค้ชผู้ปลุกปั้นความฝันเหล่านี้ พร้อมฟังเสียงจากหัวใจของนักชกตัวจริงกันครับ
อธิการบดี : วิสัยทัศน์ที่อยากเห็นคนรุ่นใหม่เติบโตไปพร้อมมวยไทย ?
อะไรคือแรงบันดาลใจหรือวิสัยทัศน์ที่ทำให้ ม.ราชภัฏนครราชสีมา
สนับสนุนกีฬามวยไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างนักมวยหญิง?

หัวหน้าค่ายมวย : มีแผนการสนับสนุนและพัฒนาโครงการมวยไทย
ในระยะยาวอย่างไรบ้างครับ?

ถัดมาเรามาคุยกับครูหนาน (นายวุฒิชัย ในริกูล ครูผู้ช่วย โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ฝ่ายมัธยม)
ผู้ฝึกซ้อม ที่อยู่เบื้องหลังการปั้นนักชกคุณภาพเหล่านี้ ซึ่งจากการได้พูดคุยและสอบถามถึงแนวคิด
และหลักการในการฝึกซ้อมเพื่อให้ได้นักมวยที่มีคุณภาพ ?
รวมไปถึงความท้าทายที่สำคัญในการดูแลและพัฒนานักมวยหญิง? ครูหนานก็ได้บอกเราว่า
หนึ่งเลยคือเรื่องการฝึกซ้อม : หลักๆ เลยเราแบ่งโปรแกรมการฝึกซ้อมเป็น 2 แบบครับ คือ สำหรับนักมวยที่มีโปรแกรมขึ้นชก ซึ่งจะเน้นความฟิตและการเตรียมตัวเฉพาะไฟต์ กับ นักมวยที่กำลังทำร่างกายรอรายการ ที่จะเน้นการสร้างพื้นฐานและเพิ่มความแข็งแกร่งโดยรวม นอกจากนี้ เราใส่ใจทุกรายละเอียดตั้งแต่ การซ้อม การกิน การพักผ่อน ไปจนถึงสภาพจิตใจ ของนักมวยทุกคนครับ เรื่องโภชนาการสำคัญมาก เรามีการคำนวณและจัดเตรียมอาหารให้เหมาะสมกับนักมวยในแต่ละช่วง เพื่อรักษาสมดุลของร่างกายและพลังงานครับ
ถัดมาความท้าทาย ? : ความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดคือเป้าหมายที่ผมตั้งไว้ครับ คือการ นำนักมวยหญิงของเราไปสู่สังเวียนระดับนานาชาติ สู้กับชาวต่างชาติ เพื่อแสดงให้โลกเห็นว่า “หญิงไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก” เหมือนกับคำว่า “เมืองหญิงกล้า” ที่เราอยู่ เราอยากจะตอกย้ำศักยภาพของผู้หญิงไทยผ่านกีฬามวยไทยครับ การรับมือคือการสร้างความเชื่อมั่นให้นักมวย พัฒนาเทคนิคให้แข็งแกร่ง และเตรียมความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจให้พร้อมรับทุกสถานการณ์





“สมดุลชีวิตสองบทบาท: ระหว่างตำราเรียนและสังเวียนผ้าใบ”
ชีวิตของนักศึกษาและนักมวยไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องรับผิดชอบทั้งการเรียนและการฝึกซ้อมที่หนักหน่วง
แต่นักมวยแห่ง ม.ราชภัฏโคราช กลับสามารถจัดการสองบทบาทนี้ได้อย่างน่าทึ่ง เราจะมาฟังคำตอบของจากพี่คนโตอย่างปิ่นเพชร ที่เธอกำลังศึกษา
อยู่ชั้นปีที่ 4 และน้องเล็กอย่างกะทิ ชั้นปีที่ 1 ถึงเรื่องจัดสรรเวลาเรียนและเวลาซ้อมอย่างไรครับ เพื่อให้ทั้งสองอย่างไปด้วยกันได้?
“เราจะเช็กตารางเรียนก่อนเลยค่ะ ว่าเรียนเต็มไหม เลิกดึกแค่ไหน ถ้าเลิกดึกมากก็อาจจะซ้อมน้อยลงหน่อย แต่ที่สำคัญคือเราต้องจัดลำดับความสำคัญให้ดี ไม่ทิ้งการซ้อมและต้องไม่ทิ้งการเรียน เพราะเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ค่ะ”

ปิ่นเพชร (ม.ราชภัฏโคราช)

นอกจากนี้เธอยังเสริมเรื่องการพักผ่อนอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง
และการเลือกกินอาหารคลีนๆ เช่น อกไก่ ไข่ต้ม ข้าวกล้อง เพื่อบำรุงร่างกายและสมองไปพร้อมกัน

“หนูว่ามันไม่เป็นปัญหากับหนูนะคะ แค่มันจะเหนื่อยกว่าเด็กปกติหน่อย เพราะเราต้องเรียนเสร็จก็ต้องมาซ้อมอีก ต้องจัดสรรเวลาให้ดี”
กะทิ (ม.ราชภัฏโคราช)
กะทิยอมรับว่าการเป็นนักมวยต้องแลกมาด้วยเวลาส่วนตัวที่น้อยลง ทำให้เธอไม่ได้เที่ยวเล่นเหมือนเพื่อนๆ
แต่สำหรับเธอ ผลลัพธ์ที่ได้นั้นคุ้มค่าเกินกว่าความเหนื่อยที่ต้องเจอ
“แพสชั่นที่จุดประกาย: กว่าจะมาเป็นนักมวย ม.ราชภัฏโคราช”
เรื่องราวการก้าวเข้าสู่สังเวียนของนักมวยแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน แต่ล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจและความมุ่งมั่นที่น่าประทับใจ เราจะมาถามน้องๆ กันว่า อะไรคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้พวกคุณสนใจกีฬามวยไทย และใครคือแรงบันดาลใจครับ?
“หนูไม่ได้เป็นผู้หญิงบอบบาง ไม่ได้เล่นบาร์บี้ แต่ชอบอะไรที่รุนแรงและแตกต่างค่ะ” จุดเริ่มต้นคือการบังเอิญเจอ ครูหนาน ที่มหาวิทยาลัยหลังจากหยุดชกไป 3 ปี “แม่มาส่งแล้วเห็นเวทีมวย ก็เลยลองเข้ามาซ้อมเล่นๆ” แรงบันดาลใจของเธอคือนักมวยหลายคนที่เริ่มจากศูนย์แล้วเป็นแชมป์โลกอย่าง รถถัง จิตรเมืองนนท์

“ครอบครัวหนูเป็นตระกูลมวยค่ะ พ่อหนูชกมวยมาตั้งแต่เด็ก และหนูก็อยากเดินตามรอยพ่อ” เธอบอกว่าแรงบันดาลใจหลักคือ คุณพ่อ เธอเดินทางไกลกว่า 800 กิโลเมตรจากสุราษฎร์ธานี มาที่นี่เพื่อตามความฝัน

จุดเริ่มต้นของกะทิจากจังหวัดตราด
นั้นน่ารักไม่เหมือนใคร “ตอนเด็กหนูไม่คิดจะต่อยมวยเลยค่ะ แต่ที่บ้านทำค่ายมวย แล้วมีเด็กที่ค่ายแย่งของเล่นกัน แล้วมาต่อยหนู พ่อหนูเห็น เย็นวันนั้นเขาก็เลยจับหนูเตะกระสอบเลยค่ะ” แรงบันดาลใจของเธอคือ พ่อกับแม่ เพราะเธอรู้สึกดีใจและภูมิใจทุกครั้งที่ชกชนะแล้วทำให้พวกท่านมีความสุข

“ตอนแรกหนูยังไม่ได้ชอบมวยเท่าไหร่ค่ะ
แต่พ่อบอกให้ไปเรียนเพื่อเป็นอาวุธป้องกันตัว” ชัยชนะน็อกยกแรกในการชกครั้งแรกตอน ม.1 คือจุดที่ทำให้เธอหลงใหลในกีฬานี้ แรงบันดาลใจของเธอคือ มงกุฎเพชร นักมวยหญิงชื่อดังที่ทั้งสวยและเก่ง

จุดเริ่มต้นบนเส้นทางนักมวยของเธอมาจากความรักในกีฬามวยของพ่อและตา “พ่อกับตาชอบดูมวยค่ะ เวลาวันเสาร์-อาทิตย์ ก็จะเห็นเขาเปิดมวยดูตลอด”

เขาเล่าถึงวัย 8 ขวบที่เห็นคนแถวบ้านมุงดูมวยช่อง 7 ทำให้เขาอยากลองบ้าง และแม้จะไม่มีการฝึกซ้อมมาก่อน แต่การขึ้นชกครั้งแรกก็จบลงด้วยชัยชนะน็อกยก 1!
“ตอนเด็กได้เงิน 500 ถือว่าเยอะนะครับ” เงินค่าตัวก้อนแรกนั้นคือจุดเปลี่ยนสำคัญ แรงบันดาลใจของเขาคือ รุ่นพี่ในค่าย ที่ไปชกแล้วได้เงินกลับมาจำนวนมาก ซึ่งทำให้เขามองเห็นโอกาสที่จะช่วยครอบครัวได้

เมื่อแพสชั่นนำทาง… “ผู้หญิง” จึงไม่ใช่ข้อจำกัดของสังเวียน!
ในประเด็นนี้เราขอหยิบยกเรื่องราวของน้องออม (ยิ้มสยาม ม.ราชภัฏโคราช) เธอได้เล่าช่วงที่ค้นพบแพสชั่นในกีฬามวยไทย
และเธอก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า “ผู้หญิง” ไม่ได้จำกัดความสามารถของเธอแม้แต่น้อย ถึงแม้ว่าพ่อแม่ของเธอกลับไม่เห็นด้วย พร้อมคำถามที่ว่า
“เป็นผู้หญิงทำไมต้องต่อยมวย?” คำพูดที่เคยเป็นกำแพงของใครหลายคน แต่ออมไม่เคยปล่อยให้มันมาหยุดฝัน! เธอแอบไปซ้อม และแม้กระทั่ง แอบขึ้นชกครั้งแรกโดยไม่บอกที่บ้าน การกระทำนี้ไม่ใช่แค่ความดื้อรั้น แต่คือการแสดงออกถึง ความมุ่งมั่นและใจรักที่เกินขีดจำกัดของคำว่า “เพศ” เมื่อครอบครัวได้รับรู้เรื่องราวทั้งหมด พวกเขาก็เห็นถึงความตั้งใจจริงของเธอ และเปลี่ยนจาก “ไม่เห็นด้วย” มาเป็น “สนับสนุนเต็มที่”
นี่คือบทพิสูจน์อันทรงพลังว่า… หากคุณมีใจรักและมุ่งมั่น ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร หรือเพศอะไร ศักยภาพที่คุณมีนั้นไร้ขีดจำกัด
และสามารถเปล่งประกายได้เสมอ!

“เมื่อเงาแห่งความท้อทาบทาม: บทเรียนที่หล่อหลอมจิตวิญญาณนักสู้”
แน่นอนว่า “สังเวียนไม่ได้มีแค่ชัยชนะ…” แต่มีวันที่น้ำตานองหน้าและหัวใจอยากยอมแพ้! อะไรคือพลังที่ฉุดรั้งพวกเขาจากห้วงความท้อแท้
ให้ลุกขึ้นสู้และแกร่งกว่าเดิม? มาร่วมฟังเรื่องราวเบื้องลึกจากหัวใจนักชก ที่พิสูจน์ว่าทุกความพ่ายแพ้คือบทเรียนอันล้ำค่าที่หล่อหลอม
ให้พวกเขากลายเป็นนักสู้ที่แท้จริง
“เหนื่อยสุดๆ เลยค่ะ ทั้งเรียนหนัก ซ้อมหนัก ยิ่งตอนมีไฟต์สำคัญ
ยิ่งเหนื่อยมาก! จนเคยคิดอยากเลิก เคยกลับบ้านไปร้องไห้
แล้วถามตัวเองว่า อายุแค่นี้ทำไมต้องเหนื่อยขนาดนี้เลยหรอ?”
แต่หนูก็ได้กำลังใจที่สำคัญจากครอบครัวและโค้ช
พวกท่านคอยบอกหนูว่า นี่เพิ่งเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิต
ทำให้หนูฮึบสู้ขึ้นมาอีกครั้งค่ะ”
ปิ่นเพชร ม.ราชภัฏโคราช


“ช่วงนั้นประมาณช่วงโควิด ผมฟอร์มตกมากๆ ต่อยกับใครก็แพ้ จนหยุดชกไป 2-3 ปี และผมก็ได้มาทบทวนตัวเองถึงสาเหตุจริงๆที่ทำให้เราแพ้คืออะไร ก็ต้องยอมรับครับว่า ช่วงนั้นผมติดเพื่อน ไม่ใส่ใจในการซ้อม
เลยเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมฟอร์มตก ซึ่งทำให้ผมได้ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า การเป็นนักมวย”นอกจากการทำร่างกายให้พร้อมแล้ว สมาธิก็เป็นส่วนที่สำคัญเช่นกัน” นับว่าเป็นบทเรียนที่ผมได้เรียนรู้ และต้องใส่ใจ เพื่อเป้าหมายที่ตั้งไว้ครับ”
พิชัย ม.ราชภัฏโคราช
ความภาคภูมิใจที่ยิ่งกว่าชัยชนะ: แชมป์ที่ใจ…ไม่ใช่แค่บนสังเวียน
เสียงระฆังจบลง แสงไฟสาดส่อง วินาทีแห่งชัยชนะบนสังเวียนนั้นงดงาม… แต่สำหรับนักมวย ม.ราชภัฏโคราช
อะไรคือความสุขและความภาคภูมิใจที่แท้จริง? มาร่วมสัมผัสหัวใจของนักสู้
ที่ค้นพบว่ารางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดไม่ได้อยู่แค่บนเข็มขัดแชมป์ แต่คือความรู้สึกที่ได้ทำเพื่อคนที่รักและสถาบันอันเป็นที่รัก
“หนูได้ในสิ่งที่ไม่เคยได้ อย่างเช่น ชัยชนะในเวทีมาตรฐาน
ไม่เคยคิดเลยว่าหนูจะพาตัวเองได้เข้าไปอยู่ตรงนั้นได้
เพราะฝีมือเราอาจจะไม่ถึง และเหนือกว่าชัยชนะที่หนูได้คือ ได้รับรางวัลพระราชทาน นักกีฬามวยไทยหญิงดีเด่นถ้วยพระราชทาน จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ และนับเป็นเกียรติอย่างสูงยิ่งค่ะ
ถือได้ว่าบ้านหลังนี้ (ม.ราชภัฏโคราช) คือบ้านหลังใหญ่ที่เต็มไปด้วยโอกาส มิตรภาพที่ดี และความรักที่อบอุ่นมากค่ะ“
ปิ่นเพชร ม.ราชภัฏโคราช


“ความภาคภูมิใจล่าสุดคือการคว้าแชมป์ประเทศไทย รุ่น 100 ปอนด์
ที่จ.สระแก้ว ซึ่งถือเป็นการพิสูจน์ตัวหนูเองครั้งแรกในฐานะนักศึกษาของมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา สำหรับเวทีนี้หนูไม่กดดันเลยค่ะ
ก่อนขึ้นชกหนูแค่คิดว่าทำเต็มที่ก็พอ”
กะทิ ม.ราชภัฏโคราช
“มุ่งสู่ความฝัน: เป้าหมายสูงสุดบนเส้นทางนักชก”
แน่นอนครับว่าเป้าหมายสูงสุดของน้องๆ คงไม่ใช่แค่แชมป์บนสังเวียน… แต่คือแชมป์ในชีวิตจริง! อะไรคือความฝันอันยิ่งใหญ่ที่นักชก ม.ราชภัฏโคราช วาดฝันไว้ และพวกเขาจะก้าวไปถึงจุดสูงสุดนั้นได้อย่างไร? ลองมาฟังวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลกว่าแค่เสียงระฆัง
พร้อมแผนการพิชิตอนาคตทั้งในและนอกสังเวียนกันครับ
อะไรคือเป้าหมายสูงสุดที่คุณตั้งไว้ในการเป็นนักมวย
และคุณมองเห็นตัวเองในอนาคตบนเส้นทางสายนี้อย่างไรบ้าง?
“หนูอยากเป็น แชมป์โลก ค่ะ ถ้าได้ก็ถือว่าสูงสุดในชีวิตแล้ว ที่ทำมาทั้งหมดก็ไม่เสียเปล่า
หนูมองว่ามหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา คือโอกาสสูงสุด
ที่จะทำให้เธอไปถึงจุดนั้นได้ และในอนาคต หากมีชื่อเสียงแล้ว
หนูก็อยากทำธุรกิจเป็นของตัวเอง เช่น เปิดค่ายมวย/ยิม เพื่อต่อยอดจากสิ่งที่หนูรักค่ะ”
—- ปิ่นเพชร ม.ราชภัฏโคราช —-“หนูอยากเป็น แชมป์ลุมพินี ค่ะ หนูมองว่านี่คือจุดสูงสุดของนักมวยทุกคน และในอนาคต
หนูก็อยาก เปิดค่ายมวย และมีนักมวยเป็นของตัวเอง ฝึกน้องๆ ให้ไปชกโดยมีนามสกุลของหนูติดตัวไป”
—- เยลลี่ ม.ราชภัฏโคราช —-“เป้าหมายสูงสุดของหนูเลยนะคะ ก็คือหนูอยากเป็น แชมป์ One Lumpinee ค่ะ และอนาคตหนูก็ได้
วางแผนที่จะรับราชการ ควบคู่ไปกับการ เปิดยิม ของตัวเองไว้สอนเด็กๆ รุ่นใหม่ค่ะ
—- กะทิ ม.ราชภัฏโคราช —-“สำหรับหนูมุ่งหวังที่จะเป็น ครู ตามสายวิชาชีพที่เรียน
และยังมีความฝันอยากเป็น ทหารอากาศ รวมถึงการเป็น นักมวยที่เก่งและดัง ควบคู่กันไปด้วยค่ะ”
—- สวยสยาม ม.ราชภัฏโคราช —-“ตอนนี้หนูอยากได้แชมป์ประเทศไทยเหมือนน้อง (กะทิและปิ่นเพชร)
และในอนาคต เมื่อหนูสำเร็จการศึกษาไป ก็จะเข้าสู่การเป็นนักมวยอาชีพเต็มตัว
และหนูเองก็ยังอยากอยู่ในวงการมวย และทำค่ายมวยเอง
เพราะความรักในมวยที่ได้รับมาจากพ่อคือสิ่งที่หนูอยากสืบสานต่อไป”
—- ยิ้มสยาม ม.ราชภัฏโคราช —-“ผมอยากไปถึงจุดสูงสุดของนักมวย ก็คือ ยอดมวย ครับ”
ในเวทีมาตรฐานของเมืองไทย และในด้านการเรียน ผมก็ตั้งใจที่จะประสบความสำเร็จในฐานะข้าราชการครู
ไปพร้อมๆ กันครับ เพราะ “มวยคือจุดเปลี่ยนชีวิต” อย่างแท้จริง “500 บาทแรก คือเงินรางวัลที่เปลี่ยนชีวิตตัวผมและครอบครัว”
โดยจุดเริ่มต้นที่เงินรางวัลเล็กๆ น้อยๆ ในวัยเด็ก สามารถสร้างโอกาสและพลิกผันเส้นทางชีวิต
ให้ผมได้ก้าวมาถึงวันนี้ และด้วยความมุ่งมั่น แรงผลักดันจากครอบครัว และพรสวรรค์ที่ผมมี
ผมก็พร้อมที่จะนำสิ่งเหล่านี้มาสานต่อความรักในมวยไทย
เพื่อให้ตัวผมและครอบครัวประสบความสำเร็จในทุกเส้นทางที่เลือกเดินครับ”
—- พิชัย ม.ราชภัฏโคราช —-

“สวมนวม…ตามฝัน: ปลดล็อกศักยภาพที่ไม่จำกัดด้วยเพศ”
แน่นอนครับว่า “สังเวียนไม่ได้สร้างมาสำหรับผู้ชายเท่านั้น!” หากใจรักและมุ่งมั่น ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร หรือเพศอะไร
กีฬามวยไทยพร้อมเปิดประตูให้คุณได้ปลดปล่อยศักยภาพที่ไร้ขีดจำกัด
มาฟังถ้อยคำสร้างแรงบันดาลใจจากปากนักชก ม.ราชภัฏโคราช
ที่อยากบอกน้อง ๆ ว่า…กล้าที่จะฝัน กล้าที่จะลงมือทำ!

“อย่าให้คำว่าผู้หญิงมาจำกัดศักยภาพของเรา คนอื่นอาจจะมองว่าไม่เหมาะเพราะมวยเป็นกีฬาที่รุนแรง แต่ถ้ามันเป็นความฝันของเรา ไม่ใช่ความฝันของคนอื่น เราก็สามารถทำได้เต็มที่โดยไม่ต้องแคร์ว่าใครจะเห็นด้วยหรือไม่”
ปิ่นเพชร ม.ราชภัฏโคราช
สำหรับเยาวชนทุกคนที่กำลังมองหาเส้นทางที่แตกต่างและท้าทาย เหล่านักมวยจากค่ายมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา
มีข้อคิดและกำลังใจดี ๆ มาฝาก พวกเขาเชื่อมั่นว่าหากคุณก้าวเข้ามาในมวยไทยแล้ว
สิ่งสำคัญที่สุดคือการมี ระเบียบวินัย และ ความตั้งใจจริง เพราะหากปราศจากสองสิ่งนี้ การจะไปให้สุดบนเส้นทางนี้ย่อมเป็นเรื่องยาก
ขอแค่ลงมือทำอย่างเต็มที่ เพราะทุกอย่างอยู่ที่การกระทำของคุณเอง กล้าที่จะลอง กล้าที่จะทำในสิ่งที่รัก โดยไม่จำเป็นต้องสนใจว่าใครจะเห็นด้วยหรือไม่ เพราะเมื่อความสำเร็จเกิดขึ้น ผลลัพธ์นั้นจะ “โคตรเท่” และเป็นเครื่องพิสูจน์ทุกสิ่งทุกอย่างด้วยตัวของมันเอง
“มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา: เบ้าหลอมแชมป์เปี้ยนแห่งอนาคต”
จากใจของนักมวยทุกคน พวกเขาต่างรู้สึกซาบซึ้งใจ
และพร้อมกล่าวคำขอบคุณถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ บนเส้นทางนักชกนี้อย่างสุดซึ้ง
มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา คือหัวใจสำคัญที่มอบโอกาส
อันยิ่งใหญ่ หลายคนมองว่าที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงสถานศึกษา แต่เป็นเหมือน “บ้านอีกหลัง” ที่หล่อหลอมให้พวกเขาเติบโตขึ้น ทั้งในฐานะนักศึกษาและนักกีฬา การสนับสนุนทั้งด้านการเรียน ทุนการศึกษา การจัดหาสถานที่ฝึกซ้อมที่ได้มาตรฐาน รวมถึงการดูแลเรื่องของบำรุงก่อนขึ้นชก ล้วนเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้พวกเขามีกำลังใจและสามารถมุ่งมั่นได้อย่างเต็มที่
ขณะเดียวกัน โค้ชหนาน เทรนเนอร์ และ ผู้สนับสนุนทุกคน ก็คือแรงผลักดันที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ หลายครั้งที่นักมวยรู้สึกท้อแท้จนเกือบยอมแพ้ แต่ด้วยคำพูดให้กำลังใจ การเชื่อมั่นในศักยภาพของลูกศิษย์ การฝึกสอนเทคนิคที่ถูกต้อง และการเป็นพี่เลี้ยงคอยดูแลอยู่ข้างสนามในทุกแมตช์ ล้วนเป็นสิ่งที่ช่วยให้พวกเขาก้าวผ่านความยากลำบากและกลับมายืนหยัดบนสังเวียนได้อีกครั้ง

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับเรื่องราวของนักมวย ม.ราชภัฏนครราชสีมา คือบทพิสูจน์ที่จับต้องได้ว่า “ความมุ่งมั่นและโอกาส”
สามารถสร้างนักกีฬาคุณภาพและคนเก่งสู่สังคมได้จริงๆ จากนี้ไป ทุกไฟต์ของพวกเขาบนสังเวียน
ไม่ใช่แค่การต่อสู้เพื่อชัยชนะส่วนตัว แต่คือการแบกรับความภาคภูมิใจของสถาบัน
และจิตวิญญาณของ “มวยไทย” ที่จะเปล่งประกายไปทั่วประเทศ!